Loading

Spotify ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานรายเดือนทะลุ 500 ล้านคน พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์-อินเตอร์เฟซใหม่เอาใจผู้ใช้

เมื่อวันพุธที่แล้ว (8 มี.ค.) บริษัท Spotify Technology SA เจ้าของ “Spotify” ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงและพอดแคสต์รายใหญ่ของโลก ออกมาประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ หลังตัวเลขผู้ใช้งานรายเดือนทะลุหลัก 500 ล้านคนได้ในที่สุด

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Spotify วางแผนคุมการใช้จ่ายและการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก โดยคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ฟังจะสูงถึง 500 ล้านคนได้ในไตรมาสปัจจุบัน (1/2023) จากไตรมาส 4/2022 ที่ตัวเลขอยู่ที่ 489 ล้านคน

จากความสำเร็จนี้ ทำให้ Spotify ประกาศแผนการพัฒนาขั้นต่อไป ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การสุ่มเพลงอัจฉริยะ (Smart Shuffle) การเล่นพอดแคสต์อัตโนมัติ และการแสดงตัวอย่างพอดแคสต์และเพลย์ลิสต์เพลงบนแพลตฟอร์ม โดยจะทยอยเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. เป็นต้นไป

ฟีเจอร์และอินเตอร์เฟซใหม่ ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ “ผู้ฟังมีบทบาทมากขึ้นในกระบวนการค้นหาเสียงหรือเพลง และให้ผู้สร้างมีพื้นที่มากขึ้นในการแบ่งปันผลงานของพวกเขา”

ผู้ใช้ Spotify จะสามารถเลื่อนดูเนื้อหาวิดีโอที่แนะนำศิลปิน พอดแคสต์ และหนังสือเสียงได้ไม่รู้จบ ในลักษณะคล้ายคลึงกับ TikTok และ YouTube Shorts

อย่างไรก็ตาม แดเนียล เอ็ก ซีอีโอของ Spotify ได้เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพื่อเลียนแบบแพลตฟอร์มอื่น “ผมไม่ต้องการให้คนอื่นคิดว่าเรากำลังทำให้สิ่งนี้เป็นเหมือน TikTok แต่เรากำลังทำให้ Spotify สร้างปฏิสัมพันธ์มากขึ้น”

Spotify เรียกการยกเครื่องฟีดหน้าแรกและประสบการณ์การค้นหาว่าเป็น “วิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา”

บริษัทบอกว่า “เราพบว่าผู้ฟังเจนต่อ ๆ ไปต้องการวิธีที่ดีขึ้นในการสุ่มตัวอย่างเสียงก่อนที่จะเข้าไปฟังเต็ม ๆ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่แอคทีฟมากขึ้นด้วยคำแนะนำขั้นสูง สปอตไลต์ และการออกแบบใหม่ที่จะเป็นอินเทอร์แอกทีฟ ทั้งหมดนี้จะทำให้การค้นหาคอนเทนต์เสียงใหม่ ๆ เป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยเป็นมา และช่วยแนะนำผู้ใช้ให้ได้รู้จักศิลปินใหม่ พอดแคสต์ใหม่ หรือหนังสือเสียงใหม่”

นอกจากนี้ บริษัทยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีเจที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งจะคอยดูแลแนะนำเพลงสำหรับผู้ใช้ระดับพรีเมียม นอกเหนือไปจาก Smart Shuffle ซึ่งจะให้คำแนะนำส่วนบุคคลไปยังเพลย์ลิสต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

บริษัทระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนศิลปินที่ทำรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ รวมถึงผู้ที่ทำรายได้มากกว่า 10,000 ดอลลาร์ มีเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า และนักวิเคราะห์คาดว่าการประกาศล่าสุดนี้ จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของแพลตฟอร์มที่อาจทำให้คนทำเพลงและแพลตฟอร์มจำนวนมากขึ้นกระโดดมาที่ Spotify

ที่ผ่านมา Spotify ได้ทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในการรุกตลาดพอดแคสต์ โดยเซ็นสัญญากับคนดังอย่าง บารัก โอบามา เจ้าชายแฮร์รี และคิม คาร์เดเชียน รวมถึงจ่ายเงิน 230 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสตูดิโอพอดแคสต์ Gimlet ในปี 2019 จากนั้นจ่ายอีก 200 ล้านดอลลาร์เพื่อดึง โจ โรแกน มา Spotify และอีก 200 ล้านดอลลาร์สำหรับ The Ringer ในปี 2020

ด้าน พอล โวเกล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Spotify บอกว่า แพลตฟอร์มจะเพิ่มอัตราการทำกำไรโดยเริ่มในปี 2023 นี้ โดยพิจารณาจากอัตรากำไรขั้นต้นและรายได้จากการดำเนินงาน โดยจัดประเภทปี 2022 เป็นปีที่ลงทุนสูงสุด

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศการปรับโครงสร้างองค์กรโดยมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพ และเลิกจ้างพนักงาน 6%